โชว์ครั้งนี้จัดขึ้น ณ ใจกลางเมืองปารีสอีกครั้ง ด้วยรันเวย์พื้นลาดเอียงที่มีดวงไฟสาดส่องเรียงเป็นดวงกลม ก่อให้เกิดรูปเงาของนางแบบทอดยาวไปตามสโลปของแบ๊กดร็อปรันเวย์ โดยฟร้อนต์โรว์มีทั้ง ร็อกเกอร์ Lenny Kravitz, Zoe Kravitz, Hailey Bieber, Lily Collins, Kit Harington, Charlotte Gainsbourg, Rami Malek, Ana de Armas, Brooklyn Beckham และ Nicola Peltz
ความสง่างามแต่ทว่าแฝงไว้ด้วยความขบถดังที่แอนโทนี วัคคาเรลโล กล่าวไปนั้น สำหรับสง่างามอยู่ในแบบแผนในแบบหญิงสาวผู้ที่มีรสนิยมที่หรูหรา นำเสนอผ่านรูปแบบเสื้อผ้าที่คลาสสิกจากยุค 90s ของแซงต์ โลรองต์ ทั้งโค้ต แจ็กเก็ต แจ็กเก็ตสูท กระโปรงทรงดินสอความยาวระดับเข่า เสื้อเบลาส์ที่โปร่งบางและพลิ้วไหว ในโครงชุดที่มีเส้นสายเฉียบคม
เช่นเดียวกันกับการเลือกใช้เนื้อผ้าอันได้มาจากคลังเก็บผลงานของแซงต์ โลรองต์ อันแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ ความเป็นแซงต์ โลรองต์ ที่มีมาอย่างช้านานได้เป็นอย่างดี ทั้งลายฮาวนด์สตู๊ท ลายตาราง ลายเสือแพนเทอร์ ลายโพลก้าดอท หรือแม้กระทั่งพุซซี่โบว์ (Pussy Bow) อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแซงต์ โรลองต์ รวมไปถึงเนื้อผ้าที่แสดงให้เห็นถึงความโก้หรู ความคลาสสิกแบบดั้งเดิมอย่างผ้าทวีด ผ้าไหม หรือแคชเมียร์
ซึ่งถูกนำมาผสมผสานด้วยความขบถของการใช้เลกกิ้งผ้าลาเท็กซ์มันวาวหรือเสื้อคอสูงที่ทำจากผ้าลาเท็กซ์ ที่เนื้อผ้านั้นดูไร้ราคา ในโทนสีที่มีความโดดเด่น แดง ม่วง ม่วงก่ำ ฟ้า และดำ ก่อให้เกิดเป็นสไตล์ใหม่ที่โดดเด่นและทันสมัยด้วยการผสมผสานความขัดแย้งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วไว้ด้วยกัน และยังคงความเป็นผู้หญิงในแบบแซงต์ โรลองต์ อย่างที่เคยเป็นมาเสมอ คือหญิงสาวผู้มีความกล้าที่จะเสี่ยง เพื่อสร้างสไตล์ที่โดดเด่น แตกต่าง ไม่เหมือนใคร
ความเซ็กซี่ มาดมั่น ร้อนแรง กล้าที่จะเปิดเผยความเป็นผู้หญิงของเธอผ่านเสื้อผ้าที่เน้นให้เห็นถึงเรือนร่าง และเสน่ห์อันเย้ายวนของผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของหญิงสาวในแบบแซงต์ โลรองต์ โดยในคอลเล็กชั่นนี้นอกจากจะนำเสนอผ่านกางเกงเลกกิ้งผ้าลาเท็กซ์รัดรูปแล้ว ยังเห็นได้จากการใช้บรา ลูกไม้ ผ้าไหมโปร่งบาง แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกจับคู่กับเสื้อผ้าที่มีความขัดแย้งในสไตล์มัสคิวลีนเฟมินีน อันเป็นสไตล์ที่โดดเด่นของแซงต์ โลรองต์ ทั้งการสวมใส่กับแจ็กเก็ตสูทหรือกางเกงเบอร์มิวด้า
อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสิ่งใหม่ในโชว์ครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นมรดกตกทอดของแบรนด์แซงต์ โลรองต์จากอดีตเช่นเดียวกัน ก็คือสีสันของเสื้อผ้าที่ในคอลเล็กชั่นนี้มีสีสันมากขึ้น และเป็นเฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จากยุคของมิสเตอร์ แซงต์ โลรองต์ ทั้งสีชมพูฟูเชีย สีม่วงสด สีเขียวมรกต ไปจนถึงสีฮอตพิงค์ ซึ่งทั้งหมดนั้นสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์และตัวตนในแบบหญิงสาวแซงต์ โลรองต์ ที่สร้างความเก๋ไก๋โดดเด่นในสไตล์ของตัวเองจากความกล้าที่จะเสี่ยง และความไม่สมบูรณ์แบบนั่นเอง