The Modernist Journals

Movie Preview : Doctor Sleep ภาพยนตร์ภาคต่อของหนังสยองขวัญในตำนาน The Shining ที่ถูกสร้างจากนวนิยายของ สตีเฟ่น คิง

สตีเฟ่น คิง ชื่อนี้คงเป็นที่คุ้นเคยสำหรับเหล่าคอหนังสยองขวัญเป็นอย่างดี เพราะเกือบทุกปีเราจะมีโอกาสได้เห็นภาพยนตร์ที่หยิบเอาเรื่องราวจากปลายปากกาของนักเขียนนิยายผู้นี้มาสร้างสรรค์อยู่เสมอ เช่นเดียวกับในปีนี้ที่เราได้ชมภาพยนตร์เรื่อง IT : Chapter Two ผลงานชิ้นเอกของ King ที่ถูกนำมาถ่ายทอดใหม่อีกครั้งบนจอเงิน รวมถึงผลงานเรื่องอื่นอย่าง Pet Semetary และ In The Tall Grass ที่เข้าฉายในปีนี้เช่นเดียวกัน แต่ยังมีภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ทั้งคอหนังและแฟนนวนิยายสยองขวัญต่างเฝ้ารอมากที่สุดและกำลังจะลงโรงฉายให้เราได้ชมกันเป็นสัปดาห์แรกกับภาพยนตร์เรื่อง Doctor Sleep หนังภาคต่อของภาพยนตร์ The Shining ที่ทิ้งระยะห่างจากภาคแรกกว่า 40 ปี

The Shining คือหนังสยองขวัญที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้กำกับระดับบรมครูแห่งวงการอย่าง สแตนลีย์ คิวบริก ซึ่งถูกฉายสู่สายตาผู้ชมเป็นครั้งแรกในปี 1980 ว่าด้วยเรื่องของครอบครัว ทอร์แรนซ์ ที่มีสมาชิกทั้งหมดสามคน ได้แก่ แจ็ค ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งรับบทโดย แจ็ค นิโคลสัน เวนดี้ ภรรยาสาว และ แดนนี่ ลูกชายวัย 5 ขวบ ผู้มีพลังพิเศษในการสื่อสารกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่เรียกว่า Shining ซึ่งแจ็คผู้เป็นพ่อได้ตัดสินใจรับงานดูแลโรงแรมโอเวอร์ลุคที่จะปิดตัวลงตลอดช่วงฤดูหนาวเนื่องด้วยสภาพอากาศอันเลวร้าย และได้พาครอบครัวมาอาศัยอยู่ร่วมกันในโรงแรมสุดหลอนแห่งนี้ จนเกิดเป็น เหตุการณ์สยองขวัญที่ทำให้เขาไล่ฆ่าภรรยาและลูกชายของตัวเอง

แม้จะผ่านมาแล้วเกือบ 40 ปี แต่ภาพยนตร์เรื่อง The Shinig ก็ยังคงเป็นหนึ่งในหนังคลาสสิคที่คอหนังสยองขวัญควรหาโอกาสมาชมให้ได้สักครั้ง และหนังเรื่องนี้ยังมีฉากในตำนานที่ตรึงใจผู้ชมไม่รู้ลืมอย่างฉากพังประตูของแจ็คที่ยังถูกนำมาใช้เป็น meme บนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งความยอดเยี่ยมของ The Shining ในอดีตได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ไมค์ ฟลานาแกน ตัดสินใจเอาเรื่องราวในนวนิยายภาคต่ออย่าง Doctor Sleep มาสร้างสรรค์เป็นภาพยนตร์พวกเราได้ดูกันอีกครั้งในปีนี้ โดยหนังเรื่องนี้จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของ แดนนี่ ทอแรนส์ ที่ผ่านพ้นช่วงเวลาเด็กเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มแต่ยังคงพบกับฝันร้ายจากประสบการณ์ในวัยเด็กตามหลอกหลอนอยู่ เป็นเหตุให้เขาต้องตัดสินใจกลับไปทำอะไรบางอย่างโรมแรมที่โอเวอร์ลุคอีกครั้งหนึ่ง

แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกตั้งใจให้ทำออกมา ทำให้ผู้กำกับอย่าง เลือกที่จะเก็บเอารายละเอียดจากหนังภาคก่อนที่สร้างโดย สแตนลีย์ คิวบริก ให้ได้ครบถ้วนมากที่สุด ทั้งแบบแปลนของโรงแรมที่ถูกนำมาสร้างใหม่ในสตูดิโอขนาดยักษ์ และยังได้มีการทำฉากย้อนอดีตที่แทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือการถ่ายทำใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการนำเอาเหตุการณ์ที่หลายคนจดจำได้ดีจากภาพยนตร์ The Shining มานำเสนอใหม่ให้ผู้ชมหายคิดถึงไม่ว่าจะเป็นฉาก “REDRUM” หรือฉากประตูในตำนาน ที่จะมาปรากฎในภาพยนตร์เรื่อง Doctor Sleep อย่างแน่นอน

และสิ่งที่น่าสนใจคือในตอนที่ภาพยนตร์เรื่อง The Shining ของ สแตนลีย์ คิวบริก เข้าฉายนั้น ตัวนักเขียนอย่าง สตีเฟ่น คิง ได้เคยออกมาบอกว่าตัวเขาเองไม่เคยชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ของคิวบริกเลย เพราะงานเขียนของเขาถูกบิดเบือนอย่างมากในหนังของคิวบริก ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกของ แจ็ค ทอแรนส์ ที่ถูกทำให้ดูคล้ายเป็นคนโรคจิต หรือการที่ตัวหนังเลือกที่จะไม่โฟกัสไปที่พลังพิเศษของแดนนี่มากเท่ากับต้นฉบับที่เขาเขียนขึ้น กลับกันตังของคิงมีบทสัมภาษณ์ที่ค่อนข้างจะชื่นชมผลงานของ ไมค์ ฟลานาแกน ชิ้นนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่เขาพูดนั้นค่อนข้างจะขัดกับตัวอย่างที่ออกมา เพราะในเมื่อฟลานาแกนเลือกที่จะสร้างหนังโดยเคารพต้นฉบับของคูบริกแล้ว ผลงานที่ออกมานั้นจะถูกใจ สตีเฟ่น คิง ผู้ที่ชิงชังกับภาพยนตร์เรื่องนั้นได้อย่างไรนั่นเป็นคำถามที่รอให้คุณไปหาคำตอบกันในโรงภาพยนตร์