“การที่ผมย้ายกลับมาอยู่ที่ลอนดอน เมืองที่ผมทำความรู้จักครั้งแรกเมื่อตอนยังเป็นนักเรียน มันให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต ลอนดอนเป็นสถานที่ ที่ผมเรียนรู้ที่จะเป็นตัวของตัวเอง เป็นเมืองที่สร้างความมั่นใจให้ผมได้เติบโตมาเป็นอย่างทุกวันนี้ ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมากเมื่อหวนคิดถึงวันแรกๆ ของการทำงาน ในขณะที่ผมเป็นนักออกแบบหน้าใหม่ที่ยังคงเรียนรู้และฝึกปรือฝีมือ พร้อมเปิดรับแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในทุกๆ ที่”
ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาพิเศษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ก่อร่างสร้างความเป็นตัวเองของผม คือสิ่งที่มีอิทธิพลในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้ ทั้งจากสถานที่ที่ผมเคยไปเยี่ยมชม ผู้คนที่อยู่รอบข้าง เสียงเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งหมดนี้คือการเดินทางส่วนตัวของผมที่ผมต้องการนำมาผสมผสานกับเอกลักษณ์ ลักษณะเฉพาะตัวของแบรนด์ Burberry ที่ผมได้นิยามมันขึ้นมาใหม่ในการทำงานที่นี่” Riccardo Tisci ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ Burberry
และในความทรงจำนี้ยังรวมไปถึงช่วงเวลาที่เขามีโอกาสได้ทำงานที่ Burberry แห่งนี้ การสร้างสรรค์เอกลักษณ์และความโดดเด่นใหม่ๆ ขึ้นจากความคลาสสิกที่สืบทอดมายาวนานของแฟชั่นเฮาส์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเบจในแบบ Burberry เทรนช์โค้ต การตัดเย็บแบบคลาสสิก หรือดัฟเฟิลโค้ต ด้วยการผสมผสานกับรูปทรง ซิลูเอตใหม่ๆ รวมไปถึงลายพิมพ์และเนื้อผ้าใหม่ๆ อีกด้วย
พร้อมด้วยการบรรเลงเสียงดนตรีโดยนักเปียโน Katia และ Marielle Labèque และโปรดิวเซอร์ Arca แสดงดนตรีสดประกอบโชว์ ด้วยเพลง Distant Places ผลงานการประพันธ์โดย David Chalmin เพลง Fantasy in F Minor ผลงานการประพันธ์โดย Franz Schubert และเพลง Four Movements for Two Pianos ผลงานการประพันธ์โดย Phillip Glass
คอลเล็กชั่นสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีในฤดูกาลนี้ นำเสนอความคลาสสิกของเทรนช์โค้ต คาร์โค้ต ดัฟเฟิลโค้ต แจ็กเก็ตเย็บควิลท์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬาขี่ม้า รวมไปถึงโค้ตตัวยาวแบบไร้คอปก การตัดเย็บแบบงานเทเลอร์ กางเกงขี่ม้า กระโปรงจับจีบระบาย ในเท็กซ์เจอร์ผ้าที่มีความคอนทราสต์กันและลายพิมพ์แบบใหม่ ในซีซั่นนี้ยังมีการนำเสนอกระเป๋ารุ่นใหม่ Olympia ทั้งแบบสะพายไหล่และแบบสะพายพาดลำตัว กระเป๋า Pocket Bag ในขนาดโอเวอร์ไซส์ กระเป๋า Society และกระเป๋า Duffle ในลวดลายตารางหลากหลายแบบ
นอกจากนี้ในโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2020 ของ Burberry ยังได้รับการรับรองว่าโชว์ที่มีการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศจนเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) และทางบริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดและชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำโชว์อีกด้วย